หน่วยที่1


หน่วยเรียนที่๑ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร


กำเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 
                 มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีการตั้งถิ่นฐานอยู่กันเป็นหมู่เหล่าตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว หน่วยเล็กที่สุดของสังคมคือครอบครัวขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็นหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จนในที่สุดเป็นเมือง และเป็นประเทศตามลำดับ มนุษย์แต่ละหมู่เหล่ามีการติดต่อสื่อสารพบปะกัน เพื่อแลกเปลี่ยนอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ ยารักษาโรคที่ชุมชนของตนไม่สามารถผลิตได้หรือผลิตได้ไม่เพียงพอเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พึ่งมีขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 20 ปีที่ผ่านมานี่เอง เป็นเทคโนโลยีที่เกิดจากการรวมเทคโนโลยี 2 ประเภทเข้าด้วยกัน คือเทคโนโลยีโทรคมนาคมกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์คำว่าสารสนเทศหมายถึงตัวเนื้อหาสาระของข้อมูลข่าวสารโดยใช้คอมพิวเตอร์ทำหน้าที่รวบรวมจัดเก็บปรับเปลี่ยนรูปแบบของสารสนเทศและใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมซึ่งพัฒนามาจากเครือข่ายโทรทัศน์และเครือข่ายวิทยุมาสร้างระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขึ้นเป็นการนำเอาความสามารถขอคอมพิวเตอร์ 

ประวัติโดยย่อของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
      เทคโนโลยีสารสนเทศเกิดการจากการรวมกันของเทคโนโลยี 2 ด้าน คือเทคโนโลยีโทรคมนาคมกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีโทรคมนาคม เทคโนโลยีโทรคมนาคม เริ่มจากการประดิษฐ์โทรเลขของแซมวล มอร์ส (Samual Morse)ในปี พ.ศ. 2380 นับว่าเป็นครั้งแรกที่ข่าวสารถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปตามสายเป็นระยะทางไกลๆได้โดยอาศัยวิธีการเข้ารหัสตัวอักษร เป็นรหัสอื่นที่ประกอบด้วยจุด (.) และขีด (-) เช่น สัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS จะเข้ารหัสเป็น    การรับส่งโทรเลขได้ถูกนำมาใช้งานในเชิงการค้าตั้งแต่ พ.ศ. 2387 เป็นต้นมา และในปี พ.ศ. 2401 ได้มีการวางสายเคเบิลใต้มหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้เกิดการสื่อสารข้ามทวีประหว่างทวีปอเมริกากับทวีปยุโรปขึ้นเป็นครั้งแรก 
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้เป็นผลมาจากการประดิษฐ์คิดค้นเครื่อง มือในการคำนวณซึ่งมีวิวัฒนาการนานมาแล้ว เริ่มจากเครื่องมือในการคำนวณเครื่องแรกคือ “ลูกคิด” (Abacus) ที่สร้างขึ้นในประเทศจีน เมื่อประมาณ 2,000-3,000 ปีมาแล้วคำว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ (InformationTechnology:IT)เรียกย่อว่า"ไอที"ประกอบด้วยคำว่า"เทคโนโลยี" และคำว่า"สารสนเทศ" นำมาร่วนกันเป็น"เทคโนโลยีสารสนเทศ"และคำว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( Information and Communication Technology: ICT ) หรือเรียกย่อว่า"ไอซีที"ประกอบด้วยคำที่มีความหมายดังนี้

เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง การนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ในการพัฒนาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ วิธีการหรือกระบวนการ เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อบุคคล กลุ่มคน หรือองค์กร
สารสนเทศ (information) หมายถึง ผลลัพธ์ที่เกิดจากการนำข้อมูลมาผ่านกระบวนการต่างๆ อย่างมีระบบ จนได้สิ่งที่เป็นประโยชน์ มีคุณค่าและสาระหรือมีเนื้อหาและรูปแบบที่เหมาะสมตามความต้องการของผู้ใช้

เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงการนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างหรือจัดการกับสารสนเทศอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว โดยอาศัยเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อบุคคล กลุ่มบุคคลหรือองค์กร ทั้งนี้เทคโนโลยีสารสนเทศยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม ซึ่งเป็นวิธีการที่จะส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อการแลกเปลี่ยนหรือเผยแพร่ข้อมูลและสารสนเทศได้อย่างรวดเร็วทันต่อการใช้ประโยชน์ผ่านอุปกรณ์สื่อสาร เช่น วิทยุ โทรศัพท์ เครื่องโทรสาร คอมพิวเตอร์ คลื่นวิทยุ และดาวเทียม

 ทัศนะเกี่ยวกับเทคโนโลยี
                จากความหมายของเทคโนโลยีดังกล่าวมาแล้วทำให้นักการศึกษามีทัศนะหรือความคิด เห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีแตกต่างกัน  โดยแบ่งออกเป็น 2 ทัศนะคือ
    1. ทัศนะด้านวิทยาศาสตร์กายภาพ (science technology) มุ่งเน้นการพัฒนาวัสดุอุปกรณ์ให้เจริญก้าวหน้าด้วยความรู้ด้านวิทยาศาสตร์  วิศวกรรมศาสตร์เพื่อสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินงานสาขาต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยทั่วไปวัสดุอุปกรณ์เทคโนโลยีมีองค์ประกอบสำคัญคือ เครื่องยนต์  กลไก ไฟฟ้า  อิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตามเครื่องมือหรือวัสดุอุปกรณ์เหล่านี้นักการศึกษาให้ความเห็นว่า เป็นเทคโนโลยีประเภทเครื่องมือ (tools technology)
      2 . ทัศนะด้านพฤติกรรมศาสตร์ (behavioral technology) เป็น เทคโนโลยีที่มุ่งเน้นกระบวนการคิดและการทำงานอย่างเป็นระบบ  โดยอาศัยการผสมผสานความรู้จากศาสตร์หลายๆด้านเข้าด้วยกัน เช่นมนุษยศาสตร์ จิตวิทยาสังคม จิตวิทยาการเรียนการสอน ประวัติศาสตร์  เศรษฐศาสตร์  ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะสำคัญของแต่ละงาน ในบางสถานการณ์อาจนำวัสดุอุปกรณ์เข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินงานแต่เป็นเพียงเครื่องมือสนับสนุนเท่านั้น

ลักษณะสารสนเทศที่ดี
สารสนเทศที่ดีและมีประโยชน์ในการใช้งานควรมีลักษณะดังนี้
-ความสมบูรณ์ครอบคลุม  (completeness)
-ความสัมพันธ์กับเรื่อง (relevance)
-ความถูกต้อง(accuracy)
-ความเชื่อถือได้ (reliability)
-การตรวจสอบได้ (verifiability)

ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
-    เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
-    เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
-    เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ
-    เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ

ประโยชน์และตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร


           ด้านการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถูกนำมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารด้านการบริหารด้านการศึกษา เช่น ระบบการลงทะเบียน และระบบการจัดตารางสอน นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มโอกาสทางด้านการศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอน 

ด้านการดำรงชีวิตประจำวัน 


             ช่วยให้มีความสะดวกคล่องตัวละรวดเร็วในการทำกิจกรรมต่างๆ สามารถทำงานหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน  ช่วยให้การทำงานใช้เวลาน้อยลง
ด้านการดำเนินธุรกิจ 
             ทำให้มีการแข่งขันระหว่างธุรกิจมากขึ้น ทำให้ต้องมีการพัฒนาองค์กรเพื่อให้ทันต่อข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง
 ด้านการติดต่อสื่อสาร 
            ความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการต่างๆ และปรากฏการณ์โลกไร้พรมแดนทำให้ผู้คนในสังคมมีการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง


ด้านผลผลิต
            ระบบการทำงานที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือจะช่วยให้การทำงนได้มากขึ้นหรือช่วยลดความเสี่ยงในบางอย่างโดยใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานแทนซึ่งได้ผลถูกต้องรวดเร็ว 



ผลกระทบในทางบวกของเทคโนโลยีสารสนเทศ
 - ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์
 - ช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้นคว้าวิจัยสิ่งใหม่
 - ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
    - เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง 
    - ช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย

ผลกระทบในทางลบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ทำให้เกิดอาชญากรรม
-  ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย
- ทำให้เกิดความวิตกกังวล
- ทำให้มีการพัฒนาอาวุธที่มีอำนาจทำลายสูง
-  ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น